ตีพิมพ์ inter journal ยากไหม
Page 1 of 1
ตีพิมพ์ inter journal ยากไหม
อาจารย์ทำงานตีพิมพ์ inter journal ยากหรือเปล่า ควรเริ่มต้นอย่างไร
littletm- Guest
เป็นคำถามยอด hit
หวัดดีครับคุณ littletm
เป็นคำถามที่มีการถามกันบ่อยครับ
คำตอบยาวมากๆ ครับ อธิบายยาวครับ
วันนี้เอาสั้นๆ ก่อนนะ การเผยแพร่ research works คือการตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการ (Journal) และถ้าเราอยากมีชื่ออยู่ในทำเนียมนักวิจัยเด่นๆ ก็ต้อง International Journals
แต่ International Journals ก็มีหลายเกรด ที่ดังๆ ทางด้าน Science เช่น Nature, Lancet, Science หรือทางด้านเทคโนโลยีหรือวิศวกรรมคือ IEEE ครับ
ในสาขาของผมคือ IEEE ครับ ทางด้านไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ครับ ที่เรารู้จักกัน IEEE Transactions ซึ่งมีหลาย Transactions ขึ้นอยู่กับ Topics ครับ แต่ละ Transactions มีสมาขิกเยอะคนอ่านเยอะครับ แต่การตีพิมพ์ใน Transactions ยากมากๆครับ
ดังนั้นมือใหม่ก็ลองส่งไป Journal อี่นก่อน เพราะยังมีอีกหลาย Journal ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่นักวิจัยในเมืองไทยส่งตีพิมพ์ ที่การ review ไม่ยากมากนักครับ
เป็นคำถามที่มีการถามกันบ่อยครับ
คำตอบยาวมากๆ ครับ อธิบายยาวครับ
วันนี้เอาสั้นๆ ก่อนนะ การเผยแพร่ research works คือการตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการ (Journal) และถ้าเราอยากมีชื่ออยู่ในทำเนียมนักวิจัยเด่นๆ ก็ต้อง International Journals
แต่ International Journals ก็มีหลายเกรด ที่ดังๆ ทางด้าน Science เช่น Nature, Lancet, Science หรือทางด้านเทคโนโลยีหรือวิศวกรรมคือ IEEE ครับ
ในสาขาของผมคือ IEEE ครับ ทางด้านไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ครับ ที่เรารู้จักกัน IEEE Transactions ซึ่งมีหลาย Transactions ขึ้นอยู่กับ Topics ครับ แต่ละ Transactions มีสมาขิกเยอะคนอ่านเยอะครับ แต่การตีพิมพ์ใน Transactions ยากมากๆครับ
ดังนั้นมือใหม่ก็ลองส่งไป Journal อี่นก่อน เพราะยังมีอีกหลาย Journal ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่นักวิจัยในเมืองไทยส่งตีพิมพ์ ที่การ review ไม่ยากมากนักครับ
Last edited by Pompidou on Wed Feb 16, 2011 12:35 pm; edited 1 time in total
เริ่มต้นอย่างไร?
มีคำถามว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
ขอความชัดเจนเริ่มต้นทำงานวิจัย หรือเริ่มต้นจะตีพิมพ์?
ถ้ามีผลงานวิจัยที่ดีเด่นๆ แล้วจะส่งตีพิมพ์ ก็ไม่ยากครับ จะส่ง Journals หรือ Transactions ไหน ก็ลองเข้าไปดูตัวอย่างที่เขาตีพิมพ์ ให้ดูตัวอย่างหัวข้อที่ใกล้เคียงกับเรา
ดูแนวทางการเขียน Abstract, Introduction, Theory, Test Result, Conclusion and remark แล้วเราก็เขียนให้ได้แนวทางเดียวกับเขาครับ
Abstract มีอะไรบ้าง Intro เขียนอย่างไร ดูเป็นแนวทาง แล้วเราก็เขียนโดยใช้ความรู้ของเราลงไป แค่นั้นเอง
ไม่ต้องเข้า Course เรียน ไม่ต้องมี Seminar การเขียน Paper ไม่ต้องมีใครป้อนข้าวเข้าปากครับ ศึกษาด้วยตัวเองครับ ผมใช้วิธีนี้ครับ
ขอความชัดเจนเริ่มต้นทำงานวิจัย หรือเริ่มต้นจะตีพิมพ์?
ถ้ามีผลงานวิจัยที่ดีเด่นๆ แล้วจะส่งตีพิมพ์ ก็ไม่ยากครับ จะส่ง Journals หรือ Transactions ไหน ก็ลองเข้าไปดูตัวอย่างที่เขาตีพิมพ์ ให้ดูตัวอย่างหัวข้อที่ใกล้เคียงกับเรา
ดูแนวทางการเขียน Abstract, Introduction, Theory, Test Result, Conclusion and remark แล้วเราก็เขียนให้ได้แนวทางเดียวกับเขาครับ
Abstract มีอะไรบ้าง Intro เขียนอย่างไร ดูเป็นแนวทาง แล้วเราก็เขียนโดยใช้ความรู้ของเราลงไป แค่นั้นเอง
ไม่ต้องเข้า Course เรียน ไม่ต้องมี Seminar การเขียน Paper ไม่ต้องมีใครป้อนข้าวเข้าปากครับ ศึกษาด้วยตัวเองครับ ผมใช้วิธีนี้ครับ
Re: ตีพิมพ์ inter journal ยากไหม
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ. แต่ว่าคนเราความสามารถไม่เท่ากัน บางครั้งลูกศิษย์ดีได้เพราะว่าพึ่งบุญอาจารย์ที่ปรึกษาดี. เห็นอาจารย์เขียนpaper เปงภาษาอังกฤษต้องใช้ editor หรือadviso หรือเปล่าครับ
Littletm- Guest
การเขียน Paper
วิธีการเขียน Paper ผมเรียนรู้โดยดู สังเกตุ จากการเขียนของคนอื่นครับ
แต่ที่ยากก็คือเราต้องการเขียนความรู้ของเราเป็นตัวหนังสือและต้องเป็นภาษาอังกฤษ
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมเคยถูก reject งานที่ส่งเสนอตีพิมพ์ใน IEEE Transactions on Energy Conversion เพราะภาษาอังกฤษที่เขียน มีข้อผิดพลาดเยอะ
(ไม่ใช่ภาษาของเรา) หลังจากนั้นเป็นต้นมา เวลาผมเขียน Paper ก็จะรบกวนคนข้างๆ ช่วยอ่านภาษาให้ แต่สุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดคือจ้าง English Professional Editor อ่านเลยครับ
ผมใช้บริการของ
http://www.elsevier.com/wps/find/authors.authors/languagepolishing
Click Link
ค่อนข้างแพงครับประมาณ 8,000 บาท ต่อ 1 paper (8 pages 2 columns, IEEE format)
2-3 วันเสร็จครับ การ Edit ของเขาดีมากๆ
แล้วถ้างานชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ระดับ IEEE Transactions ก็คุ้มครับ มันก็เหมือนการลงทุนครับ บางครั้งขาดทุนบ้าง กำไรบ้าง
อย่างที่บอกครับ งานแบบนี้เราให้เราคิดว่าเราทำเพื่อตัวเอง เพิ่ม Profile ตัวเองครับ งานตีพิมพ์มาก ก็ High Profile ครับ
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว จ่ายเงินแค่ 8,000 บาท เองต่อหนึ่ง Paper คุ้มๆ ไม่มีใครมาช่วยเหลือเราหรอกครับ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
เมื่อปลายปี 2009 ผมจ้าง Elsevier's English Editor น่าจะ 5 papers หมดเงินไปเกือบ 40,000 บาท สรุปปี 2010 ผมตีพิมพ์ไป 4 papers (3 papers ใน IEEE Transactions)
ว่างๆ ก็เข้าห้องทำวิจัย ทำไปเรื่อย งานเสร็จก็ส่งตีพิมพ์
การให้คำปรึกษา คือการแนะนำ วิธีการทำวิจัย แนวทางครับ ปัจจุบันผมก็มีอาจารย์ที่ปรึกษาอยู่ที่ฝรั่งเศส 3-4 ท่าน
เหตุที่ผมได้ตีพิมพ์ 3 papers in IEEE Transactions ในปี 2010 เพราะ Prof.Dr.Serge Pierfederici
ให้แนวทางใหมเกี่ยวกับระบบควบคุมที่เรียกว่า Diffential Flatness Based Control System
ท่าน Lecture ให้ผมฟัง 2-3 ครั้ง ผมจับทางได้ เข้าใจวิธีการใหม่นี้
เลยนำมาประยุกต์ใช้กับงานวิจัยของผม
ดังนั้นตรงนี้อาจจะมีหลายปัจจัย
1). ที่ปรึกษาดี
2). นักวิจัยเอาการเอางาน
3). เครื่องมือดี
ที่นึกออกก็แค่นี้ครับ
แต่ที่ยากก็คือเราต้องการเขียนความรู้ของเราเป็นตัวหนังสือและต้องเป็นภาษาอังกฤษ
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมเคยถูก reject งานที่ส่งเสนอตีพิมพ์ใน IEEE Transactions on Energy Conversion เพราะภาษาอังกฤษที่เขียน มีข้อผิดพลาดเยอะ
(ไม่ใช่ภาษาของเรา) หลังจากนั้นเป็นต้นมา เวลาผมเขียน Paper ก็จะรบกวนคนข้างๆ ช่วยอ่านภาษาให้ แต่สุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดคือจ้าง English Professional Editor อ่านเลยครับ
ผมใช้บริการของ
http://www.elsevier.com/wps/find/authors.authors/languagepolishing
Click Link
ค่อนข้างแพงครับประมาณ 8,000 บาท ต่อ 1 paper (8 pages 2 columns, IEEE format)
2-3 วันเสร็จครับ การ Edit ของเขาดีมากๆ
แล้วถ้างานชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ระดับ IEEE Transactions ก็คุ้มครับ มันก็เหมือนการลงทุนครับ บางครั้งขาดทุนบ้าง กำไรบ้าง
อย่างที่บอกครับ งานแบบนี้เราให้เราคิดว่าเราทำเพื่อตัวเอง เพิ่ม Profile ตัวเองครับ งานตีพิมพ์มาก ก็ High Profile ครับ
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว จ่ายเงินแค่ 8,000 บาท เองต่อหนึ่ง Paper คุ้มๆ ไม่มีใครมาช่วยเหลือเราหรอกครับ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
เมื่อปลายปี 2009 ผมจ้าง Elsevier's English Editor น่าจะ 5 papers หมดเงินไปเกือบ 40,000 บาท สรุปปี 2010 ผมตีพิมพ์ไป 4 papers (3 papers ใน IEEE Transactions)
ว่างๆ ก็เข้าห้องทำวิจัย ทำไปเรื่อย งานเสร็จก็ส่งตีพิมพ์
การให้คำปรึกษา คือการแนะนำ วิธีการทำวิจัย แนวทางครับ ปัจจุบันผมก็มีอาจารย์ที่ปรึกษาอยู่ที่ฝรั่งเศส 3-4 ท่าน
เหตุที่ผมได้ตีพิมพ์ 3 papers in IEEE Transactions ในปี 2010 เพราะ Prof.Dr.Serge Pierfederici
ให้แนวทางใหมเกี่ยวกับระบบควบคุมที่เรียกว่า Diffential Flatness Based Control System
ท่าน Lecture ให้ผมฟัง 2-3 ครั้ง ผมจับทางได้ เข้าใจวิธีการใหม่นี้
เลยนำมาประยุกต์ใช้กับงานวิจัยของผม
ดังนั้นตรงนี้อาจจะมีหลายปัจจัย
1). ที่ปรึกษาดี
2). นักวิจัยเอาการเอางาน
3). เครื่องมือดี
ที่นึกออกก็แค่นี้ครับ
Page 1 of 1
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum
|
|